DECONSTRUCTION
ความพยายามของสถาปัตยกรรมในคตินิยมเปลี่ยนแนว คือการพยายามนำสถาปัตยกรรมออกจากที่ผู้ออกแบบเรียกว่า กฎตายตัวของโมเดิร์นนิสม์ อย่างเช่น "รูปทรงตามประโยชน์ใช้สอย" , "สัจจะแห่งรูปทรง" และ "เนื้อแท้แห่งวัสดุ"
คตินิยมเปลี่ยนแนว (deconstructivism) หรืออาจเรียกว่า ดีคอนสตรักชัน (deconstruction) เป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมที่พัฒนาจากสถาปัตยกรรมหลังนวยุคนิยม ที่เริ่มช่วงปลายคริสต์ทศวรรษ 1980 โดยมีเอกลักษณ์จากรูปแบบการแตกกระจาย, ความสนใจในการเปลี่ยนแปลงพื้นผิวของโครงสร้างหรือเปลือก, รูปร่างที่ไม่ใช่เส้นตรง ที่ทำให้เกิดการทำให้บิดเบี้ยวและความไม่เป็นระเบียบขององค์ประกอบทางสถาปัตยกรรม อย่างเช่นโครงสร้างและสิ่งห่อหุ้ม ภาพปรากฏของอาคารที่เห็นจะมีเอกลักษณ์ที่เร่งเร้าสิ่งที่คาดไม่ถึงและความยุ่งเหยิงที่ถูกควบคุม
คำว่า Deconstruction มาจากนักนักปรัชญาชาวฝรั่งเศสชื่อ Jacques Derrida ได้นำคำดังกล่าวมาจากงานของ Martin Heidegger. ในช่วงฤดูร้อนของปี 1927 Martin Heidegger ได้เสนอคำบรรยายชุดหนึ่ง ซึ่งปัจจุบัน ได้รับการพิมพ์ขึ้นมาภายใต้ชื่อ Basic Problems of Phenomenology (ปัญหาพื้นฐานต่างๆเกี่ยวกับปรากฎการณ์วิทยา….วิธีการทางปรัชญา ที่ให้ความสนใจในการศึกษาเกี่ยวกับความสำนึกและวัตถุต่างๆจากประสบการณ์ตรง) Heidegger กล่าวว่า ปรากฎการณ์วิทยาเป็นชื่อของวิธีการอันหนึ่งในการศึกษาปรัชญา; เขากล่าวว่า วิธีการดังกล่าวมีขั้นตอนอยู่ 3 ขั้นด้วยกันคือ - การลดทอน, การสร้าง, และการทำลาย (reduction, construction, and destruction) - และเขาได้อธิบายว่า กระบวนการ 3 ขั้นตอน มีความเกี่ยวข้องกันและกัน. "การสร้าง" (construction) มีความจำเป็นที่จะต้องเกี่ยวพันกับ "การทำลาย" (destruction), เขากล่าว, ต่อจากนั้นก็ได้ทำการวิเคราะห์ "การทำลาย" (destruction) ด้วย "การรื้อโครงสร้าง"(deconstruction = abbau), Heidegger อธิบายสิ่งที่เขาหมายถึง "การทำลายทางปรัชญา" โดยการใช้คำในภาษาเยอรมันเดิม ซึ่งเราอาจแปลมันตามตัวอักษรว่า "unbuild" เขาหมายถึง abbau ว่า deconstruction - เพื่อให้ความกระจ่างมากขึ้นว่า เขาไม่ได้ต้องการให้หมายความถึง "taking things apart" (ถอดสิ่งต่างๆออก) จริงๆ. Heidegger ไม่เชื่อว่ามันมีเครื่องมืออัตโนมัติที่เรียกว่า "เหตุผล" ซึ่งเรานำมาใช้โดยไม่คำนึงถึงภาษา, เวลา, สถานการณ์, สภาพแวดล้อมของเรา, หรือความสนใจต่างๆ, เพื่อวิจารณ์ความคิดต่างๆ. ซึ่งดูเหมือนว่าเราจะไม่สามารถเริ่มต้นมาจากศูนย์ หรือจุดตั้งต้นของเหตุผลอันนั้น, หรือเป็นอิสระจากแนวความคิดต่างๆที่มีอยู่แล้ว, ศัพท์แสงต่างๆ, หรือวิธีการเข้าถึงทั้งหลาย, มันจึงปรากฎออกมาว่า เราได้ถูกบีบบังคับให้ทำซ้ำอดีตและความผิดพลาดของมัน. สำหรับ Derrida คำว่า deconstruction เป็นท่าทีอันหนึ่ง, ในความหมายระดับรากของคำๆนั้นเลยทีเดียว. มันคือตำแหน่ง(สมมุติ)หนึ่งซึ่งเกี่ยวข้องกับบางสิ่งบางอย่าง
Deconstruction คือแนวคิดแบบใหม่ เทคนิคคือการฉีกรื้อรูปทรงของสิ่งใดๆ (รวมถึงรูปทรงทางความคิดและการสื่อสาร) ออกมาดูกันใหม่ displace คือการเลื่อนที่ หรือย้ายตำแหน่ง ขยับใหม่ ซึ่งเป็นการท้าทายหรือฝ่าฝืนกฏเกณฑ์การออกบบเดิมๆ โดยเข้าใจว่าการคิดรื้อย้ายดังกล่าว จะได้รูปทรงใหม่ที่มีความหมายสมบูรณ์ยิ่งขึ้น แปลกกว่าเดิมๆ สถาปนิกที่นำความคิดนี้ไปใช้ทางสถาปัตยกรรม คือ Peter Eisenman และ Bernard Tschumi เป็นต้น ทั้งสองสถาปนิกเคยเชิญเจ้าของทฤษฎีนักปรัชญาเดิมคือ Jacques Derrida มาร่วมในงานออกแบบสถาปัตยกรรม สนองตอบในรูปแบบ Deconstructive Architecture คือการรื้อย้ายโครงรูปของ space แบบเดิมๆออก มีการจับหมุน จับวางซ้อนทับ (ในแนวแกนที่ต่างกัน) ฯลฯ เกิดรูปแบบแปลกๆ (ดูงานออกแบบต่อเติม The College of Design, Architecture, Art, and Planning at the University of Cincinnati )
แนวคิด Deconstruction ละทิ้งแนวทางการออกแบบที่ว่างและรูปทรงต่างจากเดิมๆ คือ Classic..ที่เน้นการคิดจากข้างนอก (structure and proportion) สู่ข้างใน Modern…ที่เน้นจากข้างใน (ประโยชน์ใช้สอย) ออกสู่รูปทรงภายนอก and Post-Modern…ที่ผสมผสานทั้งสองสิ่งกับบริบทโดยรอบของที่ตั้งและรูปทรงสัญลักษณ์เป็นสำคัญ ในส่วนของ Deconstruction นั้นใช้วิธีการขยับรื้อกฏเกณฑ์เดิมของการคิดเดิมทั้งหลาย เช่นการย้ายหมุน การซ้อนทับ ด้วยการเบี่ยงแกนหรือแนวในแต่ละชั้น (layers) ตลอดเวลา ทำให้ได้รูปทรงภายนอกที่แปลก ซับซ้อนกว่าเดิมโดยไม่คำนึงถึงบริบทที่คงที่ของที่ตั้งแต่จะสนองการโยกย้ายเปลี่ยนแปลงเสมอๆ แม้แต่คุณค่าสถาปัตยกรรมแต่เดิมเพื่อการอยู่อาศัยหรือการใช้สอยนั้น Derrida แย้งว่าน่าจะเป็นคุณค่ารอง และสถาปัตยกรรมน่าจะเป็นเรื่องการสนองตอบทางการเสพปัญญาและอารมณ์ของมนุษย์ด้วย นอกเหนือจากคุณค่าเดิมดังกล่าว ส่วนในงานของ Tschumi นั้น เขามีความคิดที่แย้งว่าสถาปัตยกรรมเดิมมีรูปแบบเป็นกฏเกณฑ์ที่ตายตัวเกินไป บางส่วนแฝงไว้ในส่วนการใช้สอย เพื่อความเป็นอิสระต่อความคิด ควรพิจารณาการ deprogram or crossprogram…รื้อโปรแกรมเสียใหม่ นำมาแยกพิจารณาแล้วจึงนำกลับไปประกอบกันใหม่ งานของ Tschumi จึงเป็นการแยกแยะ space ของอาคารออกเป็น zone แล้วนำมาจัดเรียงกันใหม่ในลักษณะเหมือนการถักทอประสานกัน หรือบางครั้งเป็นการวางประจันกันอย่างที่เรียกว่า juxtaposion ด้วยวิธีการนี้ทำให้เกิดที่ว่างและรูปทรงในลักษณะใหม่ๆ
ตัวอย่างงานสถาปัตยกรรมภายไต้แนวคิด DECONSTRUCTION
สถาปัตยกรรม โดยวิเคราะห์จากงานของสถาปนิกที่สำคัญสองท่านคือ Peter Eisenman และ Bernard Tschumi ทั้งสองต่างเป็นสถาปนิกและนักการศึกษาในเวลาเดียวกัน ซึ่งคงต้องสำรวจผลงานการออกแบบของเขาต่อไป เพื่อจะได้เข้าใจแนวความคิดตามปรัชญาของ Deconstruction ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
Parc de la Villette By Bernard Tschumi
การประกวดแบบโครงการ the Parc de la Villette ดำเนินการโดยรัฐบาลฝรั่งเศษในปี 1982. จุดมุ่งหมายเพื่อเป็นทั้งเครื่องหมายแสดงวิสัยทัศน์และการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในอนาคตที่มีนครปารีสเป็นศูนย์กลาง
Bernard Tschumi ได้ทำความเข้าใจโครงสร้างสถาปัตยกรรมที่ผ่านมา(ไม่ได้หมายถึงโครงสร้างเพื่อความแข็งแรงทางกายภาพของอาคาร แต่เป็นโครงสร้างของสถาปัตยกรรม เช่น องค์ประกอบอาคาร การใช้สอยพื้นที่ เป็นต้น) เขาให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์เชิงลำดับชั้น(อำนาจ)ของสถาปัตยกรรม รูปทรง-ประโยชน์ใช้สอย, สิ่งประดับ-โครงสร้าง, ที่ว่าง-ประโยชน์ใช้สอย(กิจกรรม) รวมถึงปรากฏการณ์การปรับเปลี่ยนประโยชน์ใช้สอยของอาคารเก่า(เหตุการณ์) เช่น การเปลี่ยนสถานีรถไฟเก่าเป็นพิพิธภัณฑ์ เป็นต้น ความเข้าใจดังกล่าวได้นำให้ Bernard Tschumi นำสิ่งเหล่านี้มาสร้างเป็นเงื่อนไขเพื่อนำไปสู่การออกแบบโครงสร้างที่ไม่เป็นความสัมพันธ์แบบลำดับชั้นได้ และทำให้เกิดปรากฏการณ์(เหตุการณ์) ที่แตกต่างไปจากเดิมขึ้นได้ หากจะอธิบายให้เห็นภาพง่ายๆ ลองสมมุติว่าตามปกติ บ้านจะแบ่งออกเป็นห้องต่างๆตามการใช้สอย เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องอาหาร ห้องครัว เป็นต้น ห้องนั่งเล่นถูกกำหนดไว้เป็นห้องที่สร้างความรู้สึกสบายๆสำหรับพักผ่อน แต่หากเราเปลี่ยนแนวคิดให้เป็นว่าห้องทุกห้องในบ้านสามารถใช้เป็นห้องพักผ่อนได้ ก็จะเกิดความเปลี่ยนแปลงของห้องทุกห้องกระบวนระบบและการซ้อนทับอย่างเหนือชั้น(SYSTEMS AND SUPERIMPOSITIONS)
House X, Guardiola House By Peter Eisenman
HOUSE X
GUARDIOLA HOUSE
![]() |
HOUSE X GUARDIOLA HOUSE |
credit http://yong-book2.blogspot.com/
เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของการเคลื่อนไหวของดีคอนสตรักทิวิสต์ อย่าางเช่นงานการแข่งขันการออกแบบสถาปัตยกรรมที่ปาร์กเดอลาวีแล็ต (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในผลงานการเข้าแข่งขันของ ฌัก แดรีดา และปีเตอร์ ไอเซนมาน[1] และผลงานชนะเลิศของเบอร์นาร์ด ชูมี , งานนิทรรศกาลสถาปัตยกรรมดีคอนสตรักทิวิสต์ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ ในปี 1988 ที่นิวยอร์ก จัดขึ้นโดยฟิลิป จอห์นสันและมาร์ก วิกลีย์ และงานเปิดของเวกซ์เนอร์เซนเตอร์ฟอร์ดิอาร์ตส ในโคลัมบัส ออกแบบโดยปีเตอร์ ไอเซนมาน และงานนิทรรศการเดอะนิวยอร์กเอกซิบิชัน ที่มีผลงานของแฟรงก์ เกห์รี, แดเนียล ลิเบส์ไคนด์, เร็ม คูลฮาส, ปีเตอร์ ไอเซนมาน, ซาฮ่า ฮาดิด, Coop Himmelb(l)au และเบอร์นาร์ด ชูมี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น